บริการประชาชน

บริการประชาชน

วันที่นำเข้าข้อมูล 11 พ.ย. 2565

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 31 มี.ค. 2568

| 9,897 view

การจดทะเบียนสมรส

 จดทะเบียนสมรสตามกฎหมายไทยที่สถานเอกอัครราชทูตฯ

  • การเปลี่ยนนามสกุลหลังสมรสและ/หรือคำนำหน้าชื่อหลังสมรส
  • การจดทะเบียนใช้ชีวิตสมรสของบุคคลเพศเดียวกันตามกฎหมายเยอรมัน

จดทะเบียนสมรสตามกฎหมายไทยที่สถานเอกอัครราชทูตฯ

Download :คำร้องนิติกรณ์ขอจดทะเบียนสมรส (คลิกที่นี่)

       การจดทะเบียนสมรสระหว่าง (1) บุคคลสัญชาติไทยหรือต่างชาติ กับ (2) บุคคลสัญชาติเยอรมัน ณ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเบอร์ลิน มีผลสมบูรณ์ตามกฎหมายไทยเท่านั้น ไม่มีผลตามกฎหมายเยอรมัน ดังนั้น กรณีที่ผู้ร้องประสงค์ให้การสมรสกับบุคคลสัญชาติเยอรมันมีผลสมบูรณ์ตามกฎหมายเยอรมัน สามารถดำเนินการได้ 2 แนวทาง ได้แก่

  1. ติดต่อขอจดทะเบียนสมรส ณ ที่สำนักทะเบียนเยอรมัน (Standesamt)

หรือ

  1. จดทะเบียนสมรส ณ สำนักงานเขตหรือที่ว่าการอำเภอในประเทศไทย แล้วนำเอกสารการสมรสไปรับรองนิติกรณ์ที่กรมการกงสุลหรือสำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราวสาขาที่เปิดให้บริการรับรองนิติกรณ์ (โปรดตรวจสอบสาขาที่เปิดให้บริการรับรองนิติกรณ์ที่ https://consular.mfa.go.th/ --> เลือก "บริการประชาชน" --> เลือก "รับรองนิติกรณ์เอกสาร" --> เลือก "สถานที่ให้บริการรับรองนิติกรณ์เอกสาร") และนำไปแปลเป็นภาษาเยอรมันโดยนักแปลที่ศาลเยอรมันรับรองพร้อมรับรองนิติกรณ์ที่สถานเอกอัครราชทูตเยอรมนีประจำประเทศไทย แล้วจึงนำมาใช้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของเยอรมนีต่อไป

          ** ทะเบียนสมรสที่มีผลสมบูรณ์ตามกฎหมายเยอรมันข้างต้นจะเป็นเอกสารสำคัญรายการหนึ่งที่ใช้ประกอบการทำธุรกรรมในประเทศเยอรมนี อาทิ การยื่นขอวีซ่าติดตามสามีชาวเยอรมัน และการขอมีถิ่นพำนักถาวรในประเทศเยอรมนี **

 

1. กรณีที่ประสงค์จดทะเบียนสมรสตามกฎหมายไทยที่สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเบอร์ลิน ผู้ยื่นคำร้องทั้งสองฝ่ายต้องจัดส่งเอกสารดังต่อไปนี้มาที่อีเมล [email protected] พร้อมแจ้งความประสงค์จดทะเบียนสมรส

  • ต้นฉบับคำร้องขอจดทะเบียนครอบครัว (Application for Family Registration) (โปรดคลิกเพื่อดาวน์โหลด)
  • หนังสือรับรองสถานภาพการสมรส (หนังสือรับรองความเป็นโสด) (ของคู่สมรสที่เป็นคนต่างชาติ)

- หากคู่สมรสของท่านเป็นบุคคลสัญชาติอื่นที่ไม่ใช่เยอรมัน คู่สมรสของท่านต้องนำหนังสือรับรองความเป็นโสดจากประเทศของตน ไปแปลเป็นภาษาอังกฤษ (หากต้นฉบับไม่ใช่ภาษาอังกฤษ) และรับรองนิติกรณ์จากหน่วยงานที่มีอำนาจในประเทศนั้น ๆ หลังจากนั้น จึงนำต้นฉบับหนังสือรับรองโสด คำแปลภาษาอังกฤษ และคำแปลภาษาไทย ไปรับรองที่สถานเอกอัครราชทูตไทยหรือสถานกงสุลใหญ่ไทยในประเทศนั้น ๆ จากนั้น นำเอกสารทั้งหมดข้างต้นมาใช้เป็นเอกสารประกอบการจดทะเบียนสมรสที่สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเบอร์ลิน ทั้งนี้ หนังสือรับรองความเป็นโสดต้องมีอายุไม่เกิน 6 เดือน นับตั้งแต่วันที่ออก

- หากคู่สมรสของท่านเป็นบุคคลสัญชาติเยอรมัน คู่สมรสของท่านต้องนำหนังสือรับรองความเป็นโสดจาก Standesamt ไปรับรองนิติกรณ์ (Legalisierung) ที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของเยอรมันเสียก่อน จากนั้น นำหนังสือดังกล่าวไปแปลเป็นภาษาไทยโดยนักแปลที่ได้รับอนุญาตจากศาลเยอรมัน แล้วจึงนำต้นฉบับพร้อมคำแปลมารับรองนิติกรณ์ที่สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเบอร์ลิน หลังจากนั้น นำเอกสารทั้งหมดข้างต้นมาใช้ประกอบการจดทะเบียนสมรสที่สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเบอร์ลิน ต่อไป ทั้งนี้ หนังสือรับรองความเป็นโสดต้องมีอายุไม่เกิน 6 เดือน นับตั้งแต่วันที่ออก

  • บัตรประจำตัวประชาชนหรือหนังสือเดินทาง (กรณีคนไทย)
  • หนังสือเดินทาง (กรณีคนต่างชาติ)
  • สำเนาทะเบียนบ้านไทย (กรณีคนไทย) (หากมี)
  • สำเนาใบแสดงที่อยู่ในเยอรมนี (Meldebestätigung) คนละ 1 ชุด
  • พยาน 2 คน (ที่บรรลุนิติภาวะตามกฎหมายไทยแล้ว) พร้อมบัตรประจำตัวประชาชน (กรณีคนไทย) หรือหนังสือเดินทาง (กรณีคนต่างชาติ) ทั้งนี้ พยานทั้งสองคนต้องมาลงนามที่สถานเอกอัครราชทูตฯ ด้วย

หลังจากที่เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบเอกสารแล้วว่าครบถ้วนถูกต้อง เจ้าหน้าที่จะแจ้งวันเวลานัดหมายในการจดทะเบียนสมรสที่สถานเอกอัครราชทูตฯ ต่อไป

  • ภายหลังจดทะเบียนสมรส ณ สถานเอกอัครราชทูตฯ ผู้ร้องจะได้รับใบสำคัญการสมรสจากสถานเอกอัครราชทูตฯ คนละ 1 ชุด และหากต้องการสำเนาทะเบียนสมรส สถานเอกอัครราชทูตฯ จะทำการรับรองสำเนาถูกต้องของทะเบียนสมรสให้ โดยมีค่าธรรมเนียม 15 ยูโร/ฉบับ (สถานเอกอัครราชทูตฯ แนะนำให้ทำรับรองสำเนาถูกต้องของทะเบียนสมรสอย่างน้อย 1 ฉบับ)

2. การเปลี่ยนนามสกุลหลังสมรส/หย่าตามกฎหมายเยอรมัน และ/หรือ คำนำหน้าชื่อหลังสมรส/หย่าตามกฎหมายเยอรมัน

  • หญิงไทยสามารถยื่นคำร้องขอเปลี่ยนฐานะทางครอบครัวหลังการสมรส เช่น การเปลี่ยนคำนำหน้าชื่อจาก “นางสาว” เป็น “นาง” และ/หรือขอเปลี่ยนนามสกุลหลังการสมรสได้ตามกฎหมายไทย (พระราชบัญญัติชื่อบุคคล (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2548)
  • ถ้าท่านเคยสมรสหรือหย่าตามกฎหมายเยอรมัน ท่านต้องติดต่อสำนักงานเขตหรือที่ว่าการอำเภอที่ประเทศไทยเพื่อขอบันทึกฐานะแห่งครอบครัว (คร.22) และเพื่อขอแก้ไขนามสกุลและคำนำหน้าชื่อ โดยจัดเตรียมเอกสารสำคัญประกอบการดำเนินการข้างต้น ดังนี้ 
    1. ขอทะเบียนสมรสจาก Standesamt ที่ท่านได้ทำการสมรส และคำพิพากษาหย่า ไปรับรองนิติกรณ์ (Legalisierung) ที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของเยอรมัน (หากไม่ทราบว่าที่ใด สามารถสอบถามสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ทางอีเมล [email protected])
    2. นำทะเบียนสมรสและคำพิพากษาหย่าที่ได้รับการรับรองนิติกรณ์แล้วไปแปลเป็นภาษาไทยโดยนักแปลที่ได้รับอนุญาตจากศาลเยอรมัน
    3. นำเอกสารดังกล่าวมารับรองที่สถานเอกอัครราชทูตฯ โดยสามารถขอนัดหมายได้ทางอีเมล [email protected] หรือสามารถส่งคำร้องนิติกรณ์พร้อมเอกสารข้างต้นซองเปล่าติดแสตมป์ที่เพียงพอต่อการส่งกลับพร้อมจ่าหน้าซองถึงตัวท่านเอง และหลักฐานการโอนเงินค่าธรรมเนียม มาทางไปรษณีย์ที่
        Royal Thai Embassy,
        Lepsiusstrasse 64/66,
        12163 Berlin
        หมายเลขบัญชีสำหรับการโอนเงินค่าธรรมเนียมคือ
        Royal Thai Embassy
        Deutsche Bank
        Kontonummer 419205000700
        BLZ 10070000
    4. นำเอกสารไปทำการรับรองนิติกรณ์ที่กรมการกงสุล (ถนนแจ้งวัฒนะ) หรือสำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราวสาขาที่เปิดให้บริการรับรองนิติกรณ์
    5. ติดต่อสำนักงานเขต/ที่ว่าการอำเภอ เพื่อขอบันทึกฐานะแห่งครอบครัว (คร.22) และขอแก้ไขชื่อและคำนำหน้าในทะเบียนราษฎรให้ถูกต้องตามสถานภาพสมรสปัจจุบัน

* หากท่านไม่สามารถเดินทางไปประเทศไทยเพื่อดำเนินการตามข้อ 4 และ 5 ด้วยตนเองได้ ท่านสามารถมอบอำนาจให้บุคคลอื่นที่ประเทศไทย อาทิต ญาติ หรือเพื่อน ไปดำเนินการแทนได้ ทั้งนี้ กรุณาตรวจสอบข้อมูลเพิ่มได้ในส่วน "หนังสือมอบอำนาจ"

** อนึ่ง หน่วยงานที่มีอำนาจในการรับรองเอกสาร (Legalisierung) ของประเทศเยอรมนีมีชื่อเรียกแตกต่างกัน ดังนั้น หากท่านไม่ทราบว่าจะนำทะเบียนสมรสไปทำ Legalisierung ที่ไหน ให้สอบถามสำนักทะเบียนที่ออกเอกสารให้ท่าน หรือสอบถามหน่วยงานปกครองของเมืองที่ท่านพำนักอยู่ (Stadtverwaltung) หรือสถานเอกอัครราชทูตฯ ทางอีเมล [email protected] พร้อมแนบเอกสารดังกล่าวมาด้วย

3. การแจ้งบันทึกฐานะแห่งครอบครัว (คร.22) และเปลี่ยนนามสกุลในทะเบียนบ้านไทย ภายหลังการสมรส

* ตามกฎหมายไทย บุคคลสัญชาติไทยเมื่อสมรสหรือหย่าแล้วในต่างประเทศต้องแจ้งบันทึกฐานะแห่งครอบครัว ณ สำนักงานเขต/ที่ว่าการอำเภอที่ตนมีชื่ออยู่

  1. นำทะเบียนสมรสที่รับรองนิติกรณ์ (Legalisierung) จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของเยอรมันแล้ว ไปแปลเป็นภาษาไทยโดยนักแปลที่ได้รับการรับรองจากศาลเยอรมัน
  2. นำทะเบียนสมรสและคำแปลภาษาไทย (เอกสารในข้อ 1) มารับรองที่สถานเอกอัครราชทูตฯ (ค่ารับรองเอกสาร 30 ยูโร/ตราประทับ)
  3. นำทะเบียนสมรสและคำแปลภาษาไทย (เอกสารในข้อ 2) ที่รับรองมาจากสถานเอกอัครราชทูตฯ แล้ว ไปรับรองที่
    กองสัญชาติและนิติกรณ์
    กรมการกงสุล
    กระทรวงการต่างประเทศ
    ถนนแจ้งวัฒนะ
    เขตหลักสี่
    กรุงเทพ ฯ
    10210
    โทร. 02-575-1056-59,
    แฟกซ์ 02-575-1054

หรือที่สำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราวสาขาที่เปิดให้บริการรับรองนิติกรณ์เอกสาร

  1. นำทะเบียนสมรสและคำแปลภาษาไทยที่รับรองจากกระทรวงการต่างประเทศ (เอกสารในข้อ 3) ไปแจ้งนายทะเบียนที่สำนักงานเขต/ที่ว่าการอำเภอในประเทศไทยที่ท่านมีชื่อในทะเบียนบ้าน เพื่อขอให้บันทึกฐานะแห่งครอบครัว (คร. 22) และหากท่านประสงค์ ท่านสามารถขอเปลี่ยนคำนำหน้าชื่อและ/หรือเปลี่ยนนามสกุลภายหลังการสมรสได้ หลังจากนั้น จึงไปติดต่อขอทำบัตรประจำตัวประชาชนฉบับใหม่

* หากท่านไม่สามารถเดินทางไปประเทศไทยเพื่อดำเนินการตามข้อ 4 และ 5 ด้วยตนเองได้ ท่านสามารถมอบอำนาจให้บุคคลอื่นที่ประเทศไทย อาทิต ญาติ หรือเพื่อน ไปดำเนินการแทนได้ ทั้งนี้ กรุณาตรวจสอบข้อมูลเพิ่มได้ในส่วน "หนังสือมอบอำนาจ"

** อนึ่ง หน่วยงานที่มีสิทธิรับรองนิติกรณ์เอกสาร (Legalisierung) ของประเทศเยอรมนีมีชื่อเรียกแตกต่างกัน ดังนั้น หากท่านไม่ทราบว่าจะนำทะเบียนสมรสไป Legalisierung ที่ใด ท่านสามารถสอบถามสำนักทะเบียนที่ออกเอกสารให้ท่าน หรือสอบถามหน่วยงานปกครองของเมืองที่ท่านพำนักอยู่ (Stadtverwaltung) หรือสถานเอกอัครราชทูตฯ ทางอีเมล [email protected] พร้อมแนบเอกสารดังกล่าวมาด้วย