เมื่อวันอาทิตย์ที่ ๑๗ ธันวาคม ๒๕๖๖ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเบอร์ลิน ได้ร่วมกับวัดธรรมวิหาร เมืองฮันโนเฟอร์จัดพิธีน้อมรำลึก พิธีสวดพระพุทธมนต์และงานเลี้ยงอาหารกลางวันเนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ ประจำปี ๒๕๖๖ ขึ้น ณ วัดธรรมวิหาร โดยมีชุมชนไทยในเมืองฮันโฟเวอร์และและภาคเหนือของเยอรมันเข้าร่วมงานประมาณ ๒๐๐ คน
นายณัฐวัฒน์ กฤษณามระ เอกอัครราชทูต ณ กรุงเบอร์ลิน ได้นำข้าราชการสถานเอกอัครราชทูตฯ สำนักงานทีมประเทศไทยพร้อมคู่สมรส ร่วมกับชาวไทยถวายราชสักการะและกล่าวอาศิรวาทเพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และประกอบพิธีสวดพระพุทธมนต์ โดยมีพระโสภณพุทธิวิเทศ เจ้าอาวาสวัดพุทธาราม กรุงเบอร์ลิน เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ พร้อมด้วยพระโพธิคุณวิเทศ เจ้าอาวาสวัดพุทธวิหาร กรุงเบอร์ลิน พระมหาทองนาค นาควโร เจ้าอาวาสวัดธรรมวิหาร เมืองฮันโนเฟอร์ และคณะสงฆ์รวม ๙ รูป ประกอบพิธี ก่อนร่วมตักบาตรและถวายภัตตาหารเพลเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล
เอกอัครราชทูต ณ กรุงเบอร์ลิน กล่าวกับชุมชนไทยในโอกาสที่เป็นการจัดงานวันชาติสำหรับชุมชนไทยนอกกรุงเบอร์ลินครั้งแรกหลังจากการแพร่ระบาดของโควิด-๑๙ ตั้งแต่ปลายปี ๒๕๖๒ โดยอัญเชิญกระแสพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งพระราชทานให้เอกอัครราชทูตฯ และกงสุลใหญ่ทั่วโลก ในโอกาสที่เข้าเฝ้าเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๖๖ ที่ได้ทรงฝากความรัก ความห่วงใยและความปรารถนาดีมายังคนไทยในต่างประเทศและทรงรู้สึกปลื้มใจ ที่ได้เห็นคนไทยรักษาความเป็นไทย ภูมิใจในชาติ และรักชาติ ในการนี้ เอกอัครราชทูตฯ ได้กล่าวถึงการเฉลิมฉลองที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะมีพระชนมพรรษาครบ ๖ รอบ ๗๒ พรรษา ในปี ๒๕๖๗ นอกจากนี้ ขอให้ชุมชนไทยตระหนักในคุณค่าทางขนบธรรมเนียมประเพณี วัฒนธรรม และค่านิยมความเป็นไทยซึ่งเป็นที่ยอมรับในระดับสากล เช่น อาหารไทยที่รู้จักแพร่หลายทั่วโลก ประเพณีสงกรานต์ในประเทศไทยที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้โดยองค์การยูเนสโก เป็นต้น ซึ่งชุมชนไทยในต่างประเทศ เป็นส่วนสำคัญที่จะแสดงออกถึงคุณค่าความเป็นไทยนี้และต่อยอดให้เป็นที่ประจักษ์ในหมู่ชาวต่างชาติ
หลังจากนั้น ในช่วงบ่าย เอกอัครราชทูตฯ ได้นำข้าราชการทีมประเทศไทยและครอบครัว เจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูตฯ ตลอดจนชุมชนชาวไทยที่มาร่วมงาน ดำเนินกิจกรรมจิตอาสาบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ ซึ่งรวมถึง จัดเก็บเต็นท์ชั่วคราว โต๊ะ เก้าอี้ และอุปกรณ์ต่าง ๆ อีกทั้งทำความสะอาดโดยการเก็บกวาด ถูพื้นที่ในอาคาร และโดยรอบเขตวัด